วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

ความสับสนทางเพศ

 

การเบี่ยงเบนทางเพศ (Sexual Deviation) เป็น ความผิดปกติในคนที่มีความรู้สึกทางเพศ ทัศนคติ ตลอดจนพฤติกรรมทางเพศที่แสดงออกไม่เหมาะสม แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ในสังคม มักมีสาเหตุจากสภาพจิตใจที่ผิดปกติทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แต่มิได้หมายความว่า “เป็นโรคจิตหรือวิกลจริต” เป็นเพียงความผิดปกติทางจิตเวช พวกบุคลิกภาพผิดปกติ (Personality Disorder) เท่านั้น
ความผิดปกติทางเพศมีหลายชนิด แต่ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะที่พบเห็นกันบ่อย ๆ ในสังคม คือ
1. ลักเพศ (Transvestism) คือ ภาวะในคนที่มีความสุขความพอใจในเพศ มีอารมณ์เพศจากการที่ได้แต่งตัวหรือแสดงท่าทางเป็นเพศตรงข้ามตนเอง เช่น ชายที่แต่งตัวเป็นหญิง หรือหญิงแต่งตัวเป็นชาย
2. ปฏิเสธเพศ (Transsexualism) คือ ภาวะของคนที่ไม่ยอมรับเพศที่แท้จริงโดยกำเนิดของตน และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าต้องการผ่าตัดเปลี่ยนเพศของตนเอง
3. ชอบอวดอวัยวะเพศ ( Exhibitionism) คือ ภาวะของคนที่ได้รับความตื่นเต้นพอใจทางเพศจากการได้เปิดอวัยวะของตนในที่ สาธารณะ มักพบในผู้ชายเกือบทั้งหมด มีลักษณะเฉพาะ คือ จะอวดอวัยวะเพศกับเด็กหญิงหรือหญิงสาวที่ไร้เดียงสาทางเพศ ตามโรงเรียน หอพัก หรือสวนสาธารณะ ท่าทางตื่นตกใจของเด็กหญิงหรือหญิงสาว จะทำให้เขาเกิดความรู้สึกตื่นเต้นทางเพศอย่างเต็มที่ พวกนี้จะไม่ทำร้ายเหยื่อของเขาเลย พอเหยื่อตกใจก็จะผละไปและมักกลับไปสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง
4. ถ้ำมอง (Voyeurism) คือ ภาวะของคนที่ได้รับความสุข ความพอใจทางเพศจากการแอบดูร่างเปลือย หรือการร่วมเพศของคนอื่น พบได้ทั้งหญิงและชาย แต่มักพบในผู้ชายมากกว่า เมื่อได้ดูสมใจก็จะทำให้เขาเกิดความรู้สึกทางเพศอย่างรุนแรงและมักจะสำเร็จ ความใคร่ไปด้วยในขณะที่แอบดูหรือกลับไปสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองภายหลัง
5. เบียดเสียดถูไถ (Frotteurism) คือ ภาวะของคนที่ได้รับความรู้สึกทางเพศโดยการเบียดเสียดถูไถกับผู้อื่น มักพบในชายมากกว่าหญิง พวกนี้จะถือโอกาสเบียดเสียดถูไถร่างกายของหญิงที่อยู่ข้างหน้าจนเกิดความ รู้สึกทางเพศอย่างรุนแรงจนถึงขั้นสำเร็จความใคร่

ข้อแนะนำในเรื่องการเบี่ยงเบนทางเพศ

ผู้ที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน ควรปิดเป็นความลับเฉพาะตัว หรือเปิดเผยเฉพาะคนที่เข้าใจ และไว้วางใจ พยายามปรับพฤติกรรมการแสดงออกให้เหมาะสมกับเพศของตนและกาลเทศะ หาที่ปรึกษาเมื่อเกิดปัญหาในการปรับตัว หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย และพยายามพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถอยู่เสมอ
ผู้ที่มีเพื่อนหรือคนใกล้ชิดมีพฤติกรรมเป็นรักร่วมเพศ ควรปฏิบัติดังนี้
1. ไม่ควรตีโพยตีพายเลิกคบ แต่ควรจำกัดความสัมพันธ์ไว้แค่เพื่อน ถ้าเขาพยายามจะคบหาแบบชู้สาว (สังเกตได้จาก การจับเนื้อต้องตัว ลูบไล้ร่างกายผิดไปจากเพื่อนตามปกติ มีการหึงหวงไม่ยอมให้มีเพื่อนต่างเพศคนอื่น ติดตามไม่เปิดโอกาสให้เป็นตัวของตัวเอง และแสดงความก้าวร้าวรุนแรงเมื่อถูกปฏิเสธการล่วงเกิน) ให้เปิดเผยตรง ๆ ว่า เราไม่ได้ชอบแบบชู้สาว แต่เป็นเพื่อนได้
2. อย่าปล่อยให้สนิทสนมมาก เพราะจะยุติความสัมพันธ์ได้ยาก หากพบเห็นพฤติกรรมเบี่ยงเบนในเรื่องอื่น เช่น ชอบอวดอวัยวะเพศ ถ้ำมอง และเบียดเสียดถูไถ ขอให้ใช้ท่าทีเป็นปกติ และเลี่ยงไปจากเหตุการณ์โดยไม่ต้องมีปฏิกิริยาใด ๆ ก็เพียงพอแล้ว
3. อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ เป็นเรื่องที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง และยังไม่สามารถแก้ไขได้ เพียงเต่สามารถปรับพฤติกรรมภายนอกได้ เราควรปฏิบัติต่อผู้ที่มีพฤติกรรมทางเพศเยี่ยงบุคคลหนึ่ง ไม่ควรส่งเสริมหรือซ้ำเติม ซึ่งจะทำให้ชีวิตเขายุ่งยากมากยิ่งขึ้น
รักร่วมเพศ
เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ความสนใจเพศตรงข้ามจะเกิดขึ้น จะสังเกตใจตัวเองได้ว่าเริ่มสนใจดารา นักแสดง นักร้องหรือบุคคลที่มีชื่อเสียง บางครั้งจะเกิดจินตนาการทางเพศกับคนที่ชอบ ความสนใจนี้จะปะปนกับความรู้สึกทางเพศและจะมีกับเพศตรงข้าม ในเชิงชู้สาว ซึ่งจะแตกต่างจากความรู้สึกกับเพื่อนตามปกติ
ความรู้สึกทางเพศเช่นนี้ จะเกิดขึ้นกับเพศเดียวกัน นั่นคืออาจมีความพอใจทางเพศกับเพศเดียวกัน มีความพอใจที่จะใกล้ชิดผูกพันเป็นคู่รักกับเพศเดียวกัน มีจินตนาการทางเพศที่จะสร้างอารมณ์เพศได้กับเพศเดียวกัน และบางครั้งอาจมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเพศเดียวกันด้วย แบบนี้เรียกว่า “รักร่วมเพศ” ภาษาอังกฤษ เรียกว่า HOMOSEXUAL
รักร่วมเพศมีทั้งชายและหญิง
- ชอบ ชาย เรียกว่า เกย์ หรือ ตุ๊ด หญิง ชอบ หญิง เรียกว่า เลสเบี้ยน หรือ ทอม ดี้
- รักร่วมเพศทั้งสองเพศ จะมีความแตกต่างกันในรูปแบบปลีกย่อย เกย์ที่ชอบแสดงบทบาททางเพศเป็นชาย เรียกว่า เกย์คิง เกย์ที่ชอบแสดงบทบาทเป็นหญิง เรียกว่า เกย์ควีน เลสเบี้ยนที่ชอบแสดงบทบาทเป็นชายเรียกว่า ทอม เลสเบี้ยนที่ชอบแสดงบทบาทเป็นหญิง เรียกว่า ดี้
รักร่วมเพศไม่ใช่ความผิดปกติร้ายแรง พบได้บ่อยๆ ในเพศชายประมาณร้อยละ 10 ของผู้ชายทั้งหมด ในเพศหญิงประมาณร้อยละ 3-4 ของผู้หญิงทั้งหมด บางคนแสดงออกและเปิดเผยต่อสังคม บางคนไม่เปิดเผยและดูจากภายนอกก็ไม่มีทางทราบได้ (โดยเฉพาะเกย์คิง และดี้)
คนที่เป็นรักร่วมเพศ สามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตและสังคมได้ แต่ต้องมีการเตรียมตัว และสิ่งแวดล้อมต้องเข้าใจและให้ความช่วยเหลือบ้าง เนื่องจากในบางสังคมยังไม่ยอมรับรักร่วมเพศ มีการรังเกียจ หรือต่อต้าน ในโรงเรียนที่มีเด็กที่เป็นรักร่วมเพศ มักจะมีการล้อเลียน รังเกียจ ไม่ยอมรับให้เข้ากลุ่มเพื่อนปกติบางกลุ่ม ในสังคมยังมีการต่อต้านทำให้ไม่ได้รับการส่งเสริมในการทำงาน โดยเฉพาะรักร่วมเพศที่เปิดเผย และแสดงออกมาก จนบางครั้งเป็นความก้าวร้าวไม่เหมาะสม ทำให้ถูกต่อต้านรังเกียจมากขึ้น รักร่วมเพศจึงจะต้องเผชิญกับความเครียดในชีวิตค่อนข้างมาก
คนที่เป็นรักร่วมเพศแท้จริงนั้น พบว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากเขาไม่รู้สึกว่าตัวเองต้องการจะเปลี่ยน เป็นแบบนี้ก็มีความสุขดี ส่วนมากพ่อแม่มักจะพยายามบังคับโดยคิดว่าถ้าใช้ความรุนแรงกันเขาจะเปลี่ยน ได้ ความจริงแล้วพบว่ากว่าเขาจะเป็นรักร่วมเพศนั้น มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนามานานก่อนหน้านั้น บางตำราเชื่อว่าเป็นปัจจัยอยู่ในพันธุกรรม บางตำราเชื่อว่าเป็นผลจากการเลี้ยงดูที่ไม่ถูกต้อง เด็กไม่เลียนแบบเอกลักษณ์ทางเพศจากเพศเดียวกัน คือจากพ่อหรือแม่ บางตำราเชื่อว่าเป็นผลจากการเรียนรู้ บางคนถูกหลอกหรือล่อลวงไปมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน แล้วเกิดติดใจกลายเป็นรักร่วมเพศไป
วิธีการปรับตัวที่ดีสำหรับคนที่เป็นรักร่วมเพศ
1. เปิดเผยเฉพาะคนที่เข้าใจ เช่น พ่อแม่ ครู หรือเพื่อน ที่ไม่รังเกียจให้ทุกคนเข้าใจตัวเอง และยอมรับในเอกลักษณ์ทางเพศแบบนี้ ให้เข้าใจว่าตนเองเปลี่ยนความชอบทางเพศไม่ได้
2. ปรับพฤติกรรมและการแสดงออกให้เหมาะสมเป็นที่ยอมรับได้ในครอบครัวและสังคม การแสดงออกมากเกินไป มักจะเป็นผลเสีย ทำให้คนอื่นรังเกียจและต่อต้าน พ่อแม่บางคนหงุดหงิดกับกิริยาท่าทางของลูกที่เป็นแบบนี้ ถึงจะเปลี่ยนให้ใจมาชอบเพศตรงข้ามไม่ได้ แต่ถ้ามีพฤติกรรมเรียบร้อย ไม่เปิดเผยมากพ่อแม่ยังรับได้
3. มีที่ปรึกษาเมื่อเกิดปัญหาในการปรับตัว เนื่องจากสภาพการเป็นรักร่วมเพศ จะต้องเจอกับอุปสรรคในสังคมมากมาย มีที่ปรึกษาที่ดี เช่น พ่อแม่ ครู หรือจิตแพทย์ ก็สามารถจะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตได้
4. หลีกเลี่ยงการสำส่อนทางเพศ ปัจจุบันพบว่าการมีเพศสัมพันธ์แบบสำส่อน จะเกิดอันตรายจากโรคติดเชื้อได้มาก โดยเฉพาะเชื้อโรคเอดส์ ซึ่งระบาดอยู่ในกลุ่มรักร่วมเพศ นอกจากนี้การไม่ควบคุมเรื่องเพศสัมพันธ์เลย จะเกิดปัญหาจากความหึงหวง ทะเลาะเบาะแว้งและทำร้ายร่างกายกันได้รุนแรง เนื่องจากสภาพอารมณ์ของคนที่เป็นรักร่วมเพศ มักจะก้าวร้าวรุนแรงได้มากเมื่อผิดหวังเรื่องเพศ

เมื่อเพศเดียวกันมาชอบจะทำอย่างไร

ในวัยรุ่นนั้นความสนิทสนมระหว่างเพศเดียวกันจะมีมาก เนื่องจากความสัมพันธ์เช่นนี้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปมากกว่าการมีเพื่อนต่าง เพศที่สนิทสนมกันมากๆ การมีเพื่อนสนิทเพศเดียวกันอาจทำให้มีโอกาสใกล้ชิดสนิทสนมกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน และทำกิจกรรมร่วมกันได้มาก จะสังเกตได้ว่าเพื่อนคนที่สนิทสนมด้วย อาจจะเป็นรักร่วมเพศและเขากำลังจะมาชอบเราฉันชู้สาว เมื่อเขามีพฤติกรรมต่อไปนี้
1. มีการจับเนื้อต้องตัว และพยายามเล้าโลมร่างกายผิดไปจากเพื่อนตามปกติ
2. มีอาการหึงหวง ไม่ยอมให้มีเพื่อนต่างเพศคนอื่นๆ
3. ติดตามและไม่เปิดโอกาสให้เป็นตัวของตัวเองหรือมีเพื่อนคนอื่น
4. แสดงความก้าวร้าวรุนแรง เมื่อปฏิเสธการล่วงเกิน
คนที่เป็นรักร่วมเพศนั้นมีลักษณะพอจะสังเกตได้ เช่น กิริยาท่าทาง การแต่งเนื้อแต่งตัว เสื้อผ้า กิจกรรมที่ชอบ มักจะไปในแนวทางเพศตรงข้าม แต่บางคนดูจากภายนอกก็ไม่สามารถบอกได้ ต้องถามดูตรงๆ จึงจะทราบได้ รักร่วมเพศจะชอบเพศเดียวกัน ไม่ได้ชอบรักร่วมเพศด้วยกันเอง แต่เขาอาจจับกลุ่มกันในหมู่ที่คล้ายๆ กัน
คนที่เป็นรักร่วมเพศ มักจะต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ในสังคมอย่างมาก ต้องมีการปรับตัวอย่างสูง และบางครั้งต้องปกปิดสังคม
การ ช่วยเหลือสามารถทำได้ โดยส่งเสริมให้เขาปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมได้อย่ามีความสุข โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงให้เขากลับเป็นเหมือนคนปกติ การป้องกันการเป็นรักร่วมเพศ จึงมีความสำคัญมากกว่า โดยการส่งเสริมการเลี้ยงดูเด็กให้ถูกต้องตาเพศที่แท้จริงและมีพื้นฐานความ สัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อและแม่กับลูกนั่นเอง

1 ความคิดเห็น:

  1. Betway YouTube - Videodl
    Youtube, YouTube. Streaming is pretty easy to watch online. betway.com - YouTube videos - Watch youtube to mp3 shark videos on YouTube. Linked to youtube youtube · betway.com.

    ตอบลบ